หลังจากที่ยืดยืนกันมานาน แต่ก็ไม่ได้นานมากนัก ‘ปีศาจแดง’ ก็ปิดดีลในการคว้าตัว เมาท์ มาจาก เชลซี ได้สำเร็จลุล่วง ด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์ รวมกับแอดออนอีก 5 ล้าน ซึ่งคาดว่าจะเซ็นสัญญา 5 ปี พร้อมค่าเหนื่อย 250,000 ปอนด์ และหากรวมโบนัสก็อาจะสูงได้ถึง 300,00 ปอนด์ต่อสัปดาห์

ตั้งแต่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีข่าวกับดาวเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้ แฟนบอลหลายคนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องเอานักเตะในตำแหน่งที่เรามีอยู่แล้วเข้ามาเพิ่มอีกด้วย ไหนว่าขาดกองหน้า บอกว่าจะซื้อผู้รักษาประตูคนใหม่ แล้วทำไมกองกลางถึงกลายเป็นตำแหน่งแรกที่เราได้มาร่วมทีม

แต่ถ้าเราไปไล่ดูกันจริงๆ แผงมิดฟิลด์ของเรามันก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นนะครับ แน่นอนว่า 3 ตัวหลักก็คือ บรูโน่ แฟร์นันเดส, คริสเตียน อิริคเซ่น และ คาเซมิโร่ ซึ่ง 2 รายหลังก็อายุแตะเลข 3 กันแล้ว แล้วถ้าลองไล่ไปถึงตัวสำรอง ก็จะมี เฟร็ด, สก็อต แม็คโทมิเนย์ และ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ที่ฟอร์มการเล่นสามวันดีสี่วันไข้กันทุกราย โดยเฉพาะดาวเตะหมายเลข 34 ที่ไม่รู้จะปรับตัวกันไปถึงเมื่อไหร่

คราวนี้เรามาดูว่าปกติแล้ว แข้งรายใหม่ของ ‘ผีแดง’ เล่นอย่างไรให้กับสโมสรเก่าของเขา 

ช่วงที่เขาเล่นให้กับ ‘สิงห์บลูส์’ เขาแทบจะได้ลงเล่นครบทุกตำแหน่งในแนวรุกมาแล้ว หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นนักเตะอเนกประสงค์ตัวจริง ในยุคของ แฟรงค์ แลมพาร์ด เขามักจะได้ลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก ส่วนในช่วงที่ โธมัส ทูเคิล มาคุมทีม ก็โดนจับไปเล่นริมเส้นทางฝั่งซ้ายและขวามาแล้ว แต่ตำแหน่งที่เขาถนัดที่สุดน่าจะเป็นการลงเล่นเป็นหมายเลข 10 ให้กับทีม

แล้วก็เกิดคำถามอีกว่า ‘จะไปทำตำแหน่งกับ บรูโน่ หรือเปล่า’ ซึ่งผมมองว่า เอริก เทน ฮาก จะใช้งานเขาในตำแหน่งของ อิริคเซ่น มากกว่า เนื่องจากพลังงานในการเล่นของ เมาท์ จะมีมากกว่าดาวเตะเลือดโคนมอย่างแน่นอน และจะทำให้การขับเคลื่อนเกมในแดนกลางไหลลื่นขึ้นกว่าเดิม

หากเข้าได้ลงเล่นในตำแหน่งหมายเลข 8 ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็จะเป็นการเพิ่มมิติในเกมรุกให้กับทีมได้อีกเยอะ ด้วยความสามารถในการออกบอลทั้งสั้นและยาว, จบสกอร์ได้ดี และฝ่าทะลวงแนวรับคู่แข่งจากพื้นที่แถวสองได้อย่างยอดเยี่ยม

ซึ่งนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้กุนซือชาวดัตช์ต้องหานักเตะที่เป็นคนคอยขับเคลื่อนแดนกลางให้กับทีม ที่พาบอลขึ้นหน้าได้ วิ่งเพรสซิ่งได้ตลอด และสำคัญที่สุดคือสไตล์การเล่นที่เหมาะสมกับแผนของเขา

เชื่อว่าทีมงานของ ยูไนเต็ด ได้ ‘คิด วิเคราะห์ แยกแยะ’ มาเป็นอย่างดีแล้วในการควักกระเป๋าจ่ายเงินไปเกือบๆ 60 ล้านปอนด์ เพื่อกระชากเด็กที่เติบโตมาจากอะคาเดมี่ของคู่แข่งมาสู่ทีม ในช่วงที่การเจรจาเทคโอเวอร์สโมสรก็ไม่รู้ว่าจะจบลงตอนไหน

จนถึงตอนนี้เราก็ได้เพียง เมสัน เมาท์ มาร่วมทีม แล้วก็ยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นรายต่อไปที่จะได้ก้าวเข้ามาเป็นขุนพล ‘เร้ด เดวิลส์’ รายต่อไป ก็ได้แต่หวังว่าทีมเราจะไม่โดนฟันหัวแบะกับนักเตะทุกรายที่ย้ายมาก็พอแล้วครับ